หมอสุรวิทย์เตือนประชาชนพื้นที่น้ำท่วมระวังงูกัด
แนะสังเกต 7 อาการสัญญาณถูกงูพิษกัด
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม
ระวังงูกัด แนะให้ประชาชนสังเกต มี 7
อาการสัญญาณที่เกิดจากงูมีพิษ เช่น ปวดอย่างรุนแรง มีรอยเขี้ยว 2 ข้าง
คลื่นไส้อาเจียน เตือนหลังถูกกัดขอให้บีบเลือดออกจากแผล
ห้ามใช้ปากดูดพิษจากแผล และให้โทรแจ้งทีมแพทย์ฉุกเฉิน
1669 ทันที โดยระหว่างรอแพทย์
ให้บริเวณที่ถูกงูกัดเคลื่อนไหวน้อยที่สุด
เพื่อชะลอการซึมของพิษงู
วันนี้ (17 กันยายน 2555)
นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
พร้อมด้วยนายแพทย์สุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี และคณะตรวจเยี่ยมติดตามการให้ความช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดสุพรรณบุรี
โดยเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยที่ศาลาวัดโพธิ์คอย หมู่ที่ 2
ตำบลท่าระหัด อ.เมือง และศาลาวัดบางแม่หม้าย ต.บางใหญ่ อ.บางปลาม้า
และมอบยาสามัญประจำบ้านพร้อมถุงยังชีพ รวม 500
ชุด
นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวว่า ในส่วนของสถานพยาบาลในจังหวัดสุพรรณบุรี
ขณะนี้ทุกแห่งได้เตรียมพร้อมป้องกันน้ำท่วมสถานพยาบาลทั้งหมดแล้ว
อย่างไรก็ดี ในภาพรวมของพื้นที่น้ำท่วมส่วนใหญ่ขณะนี้
เป็นพื้นที่เกษตรกรรม
สิ่งที่เป็นห่วงประชาชนคืองูพิษอาจหนีน้ำเข้ามาหลบซ่อนอยู่ตามที่พักอาศัยของคน
จึงต้องระวังให้มาก ขอให้จัดสิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบ
หลีกเลี่ยงการเดินในที่แคบหรือบริเวณที่รกมีหญ้าสูง
โดยเฉพาะเวลากลางคืน
กระทรวงสาธารณสุขได้กระจายเซรุ่มแก้พิษงูที่พบบ่อยในแต่ละภูมิภาค มี
7ชนิดได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูทับสมิงคลา งูแมวเซา งูกะปะ
และงูเขียวหางไหม้ให้แก่โรงพยาบาลชุมชน
โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปประจำจังหวัดต่างๆแล้ว
เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที
ป้องกันการเสียชีวิตให้มากที่สุดหากถูกงูกัดให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือ1669ตลอด
24 ชั่วโมง
นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวต่อว่า
ในการสังเกตอาการ หากถูกงูมีพิษกัด จะมีสัญญาณอาการ 7
ประการดังนี้ 1.มีรอยเขี้ยว 2 ข้าง และมีอาการบวมแดงรอบๆรอยกัด
แต่บางครั้งอาจจะเห็นเพียงรอยเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าถูกกัดบริเวณปลายมือปลายเท้า
หรือบางครั้งอาจเห็นมากกว่า 2รอยในกรณีที่ถูกกัดมากกว่า 1ครั้ง
2.อาจมีอาการปวดอย่างรุนแรง 3.คลื่นไส้อาเจียน 4.หายใจติดขัด
หากรุนแรงอาจหยุดหายใจได้ 5.สายตาขุ่นมัว 6.มีน้ำลายมากผิดปกติ
และ7.หน้าชาไม่รู้สึกหรือชาตามแขนขา โดยพิษนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของงู
เช่นงูเห่างูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูทับสมิงคลา จะมีพิษต่อระบบประสาท
ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหนังตาตก กลืนลำบาก พูดไม่ชัด และหยุดหายใจ
ประการสำคัญ หากพบผู้ที่ถูกงูกัด
ควรดูแลเบื้องต้นก่อนถึงมือแพทย์
โดยบีบเลือดบริเวณบาดแผลออกเท่าที่ทำได้ เพื่อขจัดพิษงูออกจากร่างกาย
ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและฟอกสบู่หรือน้ำด่างทับทิม ใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้ง
เช็ดแผลและรีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดโดยพยายามให้อวัยวะที่ถูกกัดเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด
อาจดามบริเวณดังกล่าวให้อยู่ในระดับต่ำกว่าหัวใจ เพื่อชะลอการซึมของพิษงู
สิ่งที่เป็นข้อห้าม ได้แก่
1.ห้ามกรีดแผล ห้ามใช้ไฟจี้แผล
หรือพอกยาในแผลที่ถูกงูกัด 2.ห้ามไม่ให้ใช้ปากดูดพิษงูจากแผล 3.ห้ามแผลโดนน้ำท่วม 4.ห้ามให้ผู้ที่ถูกงูกัดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เนื่องจากจะทำให้พิษงูกระจายเร็วขึ้น
5.ห้ามขันชะเนาะเพราะอาจทำให้เนื้อตายได้
**************************************** 17
กันยายน 2555
|